วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทำไงดีกลิ่นหอมแดงติดมือ





   ใครเคยนำหอมแดงมาทำกับข้าว หลังจากนั้นกลิ่นหอมแดงก็ยังติดมืออีก ครั้งต่อไปหากคุณต้องทำอาหารที่ต้องหยิบจับหอมแดงเคล็ดลับคือ หลังปรุงเสร็จนำเกลือป่นมาถูมือให้ทั่ว แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้ง กลิ่นหอมแดงก็จะหมดไปได้แล้วค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

พริกแกงไทย..ออกฤทธิ์ยับยั้งสารก่อมะเร็ง

   สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผลการวิจับสุดเจ๋ง หลังศึกษาการยับยั้งการเกิดไนโตรซามีน หรือ สารก่อมะเร็ง ในน้ำพริกแกง 3 ชนิด คือ น้ำพริกแกงส้ม น้ำพริกแกงเขียวหวาน และน้ำพริกแกง ซึ่งมีส่วนผสมของสมุนไพรไทยจำนวนมากมาลองศึกษาวิจัย จนพบว่าน้ำพริกแกงเหล่านี้มีสารยับยั้งการเกิดมะเร็งได้ซึ่งในต่างประเทศเคยทำการวิจัยเกี่ยวกับสารที่สามารถยับยั้งสารก่อมะเร็งชนิดเดียวกัน ใน สตรอว์เบอร์รี่ ก้านคะน้า และกระเทียม พบว่าสามารถยับยั้งสารก่อมะเร็งได้ถึงร้อยละ 74-85 เนื่องจากมีส่วนประกอบอื่นที่มีคุณสมบัติพฤกษาเคมี เช้น กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ กระชาย พริกต่างๆ ซึ่งมีฤทธิ์สามารถยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้เช่นกัน



www.fatgirlshop.com

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

ภัยร้ายรสหวานเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อน





นักวิจัยสถาบันคาโรลินสกา ประเทศสวีเดน ระบุว่าการกินน้ำตาลมากๆ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินมากขึ้น ส่งผลให้ตับอ่อนต้องทำงานหนักขึ้นและเป็นการกระตุ้นการเติบโตของตับอ่อน และในที่สุดอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็ง จากผลการศึกษาพฤติกรรมการกินของชายกับหญิงที่มีสุขภาพดี อายุ 45-83 ปี จำนวน 80000 คน ระหว่างปี 1997-2005 ระบุว่า ผู้บริโภคอาหารกับเครื่องดื่มที่มีรสหวานเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนสูง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือ ผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำเชื่อมมาก โดยกลุ่มตัวอย่างที่ดื่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าววันละ 2 กระป๋อง หรือมากกว่านั้น มีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่มถึงร้อยละ 90 ส่วนผู้ที่กินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีการเติมน้ำตาลลงไปอย่างน้อยวันละ 5 ครั้ง จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70 ทีเดียว

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของละมุด

     ผลดิบของละมุดฝรั่งมียางสีขาวค่อนข้างมาก มีสารแทนนินชนิด โพรแอนโทไซยานิดิน (proanthocyanidin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูง จึงมีฤทธิ์ฝาดสมาน ส่วนผลสุกจะไม่มียาง เนื้อนิ่ม สีน้ำตาลปนแดง รสชาติหวาน หอม ละมุดขนาดกลางเพียง 1 ผล มีเส้นใยอาหารสูงถึงร้อยละ 32 ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน โดยเป็นเส้นใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำอยู่มาก ซึ่งข้อดีก็คือจะช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่  สารอาหารต่างๆที่จะได้รับจากการกินละมุดก็ยังมีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโซเดียม ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน รวมถึงผิวพรรณได้ แต่ละมุดก็มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง คนที่กังวลเรื่องน้ำหนักและน้ำตาลในเลือด จึงไม่ควรกินมาก ส่วนลำต้นของละมุดสามารถนำมาต้มกินเป็นยาแก้ท้องเสียหรือโรคบิด

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของ...มะละกอ





       มะละกอสามารถช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี เพราะมีเส้นใยอาหารชนิดเพกติน สูงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะเส้นใยอาหารสามารถจับสารพิษก่อมะเร็งและพาส่งออกจากร่างกาย ทำให้สัมผัสกับเซลล์ลำไส้ใหญ่น้อยที่สุด เนื้อมะละกอสุกมีสารไลโคพีน ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มะละกอทั้งผลดิบและสุก มีวิตามินซีสูง โดยเฉพาะมะละกอเนื้อสีแดงจะมีวิตามินซีสูงกว่าเนื้อสีเหลือง และมะละกอผลป้อมมีวิตามินซีสูงกว่าผลยาว มะละกอสุกอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแคโรทีน วิตามินซี สารฟลาโวนอยด์ สารโฟเลต กรดแพนโทเทนิก โพแทสเซียม แมกนีเซียม เส้นใยอาหาร นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยจากประเทศออสเตรียพบว่า บริเวณเปลือกผลและใต้ผิวเปลือกมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุดเมื่อมะละกอสุกงอม เนื่องจากคลอโรฟิลล์เปลี่ยนเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างยอดเยี่ยมอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า NCC (nonfluorescing chlorophyll catabolytes)

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของ...ลิ้นจี่





  เนื้อสีขาวใต้เปลือกสีสวยของลิ้นจี่ มีอะไรดีๆที่มากกว่าความอร่อย ด้วยเนื้อลิ้นจี่เพียง 1 ขีด จะให้วิตามินซีมากถึง 71 กรัม เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน พร้อมวิตามิน บี1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา วิคามินบี 2 ช่วยป้องกันไขมันอุดตันในหลอดเลือด มีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 16 กรัม ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรักโทส และซูโคส จึงสามารถให้พลังงานกับร่างกายและช่วยให้รู้สึกสดชื่นได้อย่างรวดเร็ว ลิ้นจี่ยังเป็นผลไม้ที่มี โพแทสเซียม ซึ่งมีผลต่อการรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ส่วนแคลเซียม และ ฟอสฟอรัส จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน คาเซทิน ซึ่งเป็นสารโพลีฟีนอลในลิ้นจี่ มีส่วนช่วยลดการเกาะของไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และ โรคมะเร็ง ผู้ที่รักการดูแลรักษารูปร่าง ลิ้นจี่ เป็นผลไม้ที่เหมาะมาก เพราะ ลิ้นจี่ 6 ผล จะให้พลังงานเพียง 125 แคลอรี่ และ ไขมันน้อยกว่า 1 กรัม ทั้งยังได้ปริมาณเส้นใยอาหารสูงด้วย แต่ผู้ที่ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดควรกินอย่างยับยั้งชั่งใจ เพราะลิ้นจี่มีปริมาณน้ำตาลสูง